วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553


C M Y K =คือ สีที่ใช้ในการพิมพ์ ส่วนใหญ่จะมี 4 สี ได้แก่ C=cyan (ฟ้าอมเขียว) M=magenta(แดงอมม่วง) Y=Yellow(เหลือง) และ K=Key(สีดำ) ซึ่งเป็นสีที่นำมาใช้ การผสมสีทั้งสี่นี้ จะทำให้เกิดสีได้อีกหลายสี นำมาใช้ในการพิมพ์เป็นส่วนใหญ่

R G B= คือ แสง สี ประกอบไปด้วย R=red(สีแดง) G=green(สีเขี่ยว) B=blue(สีฟ้า)


การใช้สีในดิจิตอล
-Hue = คือ ตัวสีหรือเนื้อสี
-Saturation = คือ เป็นตัวที่บอกความจัดจาดของสี
-Value = คือ คำน้ำหนักของสี


หลักการเลือกสี
-Monochromatic คือ การใช้สีสีเดียวที่สร้างความแตกต่างด้วยการสร้างระดับความสว่างความมืดของสี
-Triads คือ การใช้สี 3 สีที่อยู่ตรงข้ามกัน เพื่อสร้างความแตกต่าง
-Analogous คือ การใช้สีที่อยู่ติดกัน 3 สี
-Complementary คือ การใช้สีที่ตรงกันข้ามกันในวงจรสี ควรใช้สีดำเพื่อลดความรุนแรงของสี
-Split-complements คือ เป็นการใช้สีแบบผสมระหว่างสีโรเย็นและสีโทนร้อน

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

Font

การใช้ตัวอักษร
Typo*
+ ความหมาย
"TYPOGRAPHY"
การใช้ตัวอักษรหรือการจัดวางตัวอักษร

"FONT (TYPEFACES) "
ชุดรูปแบบของตัวอักษร

"FONT FAMILIES"
ตระกูลของชุดแบบตัวอักษร เช่น ตัวธรรมดา ตัวหนา ตัวเอียง ฯลฯ

Typo*
+ ส่วนประกอบ

Typo*
+ ขนาด

Typo*
ประเภท
+ Sans Serif (ไม่มีเชิง)
+ Serif (มีเชิง)
+ Script (ลายมือ)
+ Monospace (เป็นบล็อค , เป็นช่องๆ)
+ Novelty (แฟชั่น , ตกแต่ง , ประดับ)
+ Dingbat , Ornament (รูปสัญลักษณ์)

Typo*
+ การจัดตำแหน่ง

Typo*
+ การผสมอักษร
1.ตัวอักษรไม่มีขาตัวหนาผสมกับตัวอักษรมีขาตัวบาง ตัวอักษรทั้งสองแบบ มีความแตกต่างด้วยน้ำหนักและขนาด ทำให้เกิดความโดดเด่นได้ง่าย
2.ตัวอักษรมีขาตัวหนาผสมกับตัวอักษรไม่มีขาตัวบาง การผสมอักษรแบบนี้ทำให้เกิดจุดเด่นของสัญลักษณ์อักษรได้ง่าย
3.ตัวอักษรไม่มีขาผสมกับตัวอักษรมีขา การผสมอักษรแบบนี้ไม่มีจุดเด่น เนื่องจากตัวอักษรทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างกันด้วยน้ำหนัก // ไม่ควรใช้ !
4.ความแตกต่างอย่างชัดเจนของตัวอักษรแบบนี้ เหมาะสำหรับงานที่มีการพัฒนาแนวความคิด
5.เช่นเดียวกัน การผสมอักษรสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างหลากหลาย

Typo*
+ การปรับระยะห่าง